ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนต้อนรับปีหนูทอง มอบของที่ระลึกแก่ผู้โดยสาร
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิร่วมส่งมอบความสุขให้กับผู้โดยสารในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยจัดซุ้มตกแต่ง ในอาคารผู้โดยสาร พร้อมแจกของที่ระลึกให้ผู้โดยสารที่เดินทางมาจากจีน เพื่อสร้างความประทับใจ
วันนี้ (22 มกราคม 2563) เวลา 16.40 น. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) จัดกิจกรรมต้อนรับเทศกาลตรุษจีนมอบของที่ระลึกเป็นพัดลายดอกไม้แก่ผู้โดยสารที่เดินทางมาในเที่ยวบิน CA 471 ของสายการบิน Air China เส้นทางเฉิงตู สาธารณรัฐประชาชนจีน – ทสภ. พร้อมทั้งมีการแสดงชุดเชิดสิงโตต้อนรับผู้โดยสารที่เดินทางมากับเที่ยวบิน ดังกล่าว โดยมีนางสาวผานิต เสถียรเสพย์ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายสนับสนุนธุรกิจ) และผู้แทนจากหน่วยงานราชการ สายการบิน ร่วมให้การต้อนรับ ณ บริเวณทางออกจากเครื่องบิน Gate D4 ชั้น 2 อาคาร
เทียบเครื่องบิน D
น.ท.สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) กล่าวว่า นอกจากมีการแจกของที่ระลึกให้กับผู้โดยสารในเที่ยวบินดังกล่าวแล้ว ในระหว่างวันที่ 18 – 27 มกราคม 2563 ทสภ. ได้จัดกิจกรรมต้อนรับเทศกาลตรุษจีน โดยจัดตกแต่งบรรยากาศภายในอาคารผู้โดยสารทั้งในส่วนขาเข้าและขาออกให้เข้ากับบรรยากาศตรุษจีน เพื่อต้อนรับปีหนูทอง โดยซุ้มต้อนรับที่บริเวณประตู 5 ชั้น 4 ห้องโถงผู้โดยสารขาออกจะมีการประดับตกแต่งด้วยพัดขนาดใหญ่ และตุ๊กตาหนูทอง รวมทั้งตกแต่งด้วยดอกไม้อย่างสวยงาม เพื่อสื่อถึงการพัดไล่ความทุกข์โศกออกไปและนำพาความร่มเย็นเข้ามา และซุ้มต้อนรับที่บริเวณประตู 1 ชั้น 2 ห้องโถงผู้โดยสารขาเข้า มีการตกแต่งซุ้มเป็นภาพสิงโตและตุ๊กตาหนูทอง ซึ่งสิงโตเป็นสัญลักษณ์ของพลังอำนาจ ความกล้าหาญ และความจงรักภักดี ให้ผู้โดยสารได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก รวมถึงมีการขึ้นภาพข้อความคำอวยพรเป็นภาษาจีนบนหน้าจอโทรทัศน์ตามจุดต่างๆ ภายในอาคารผู้โดยสารด้วย
น.ท.สุธีรวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีนระหว่างวันที่ 19 – 31 มกราคม 2563 (รวม 13 วัน) เป็นช่วงที่มีผู้โดยสารเดินทางเข้า – ออก เป็นจำนวนมาก โดยคาดว่าจะมีผู้โดยสารมาใช้บริการในช่วงดังกล่าวประมาณ 2.7 ล้านคน หรือเฉลี่ยกว่าวันละ 209,000 คน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมามีปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้น ร้อยละ 4.04 แบ่งเป็นผู้โดยสารตามตารางการบินปกติ 2.66 ล้านคน และผู้โดยสารในเที่ยวบินพิเศษและเช่าเหมาลำประมาณ 61,000 คน และในส่วนของเที่ยวบินมีจำนวนประมาณ 14,000 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยวันละ 1,082 เที่ยวบิน ลดลงจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 3.5 แบ่งเป็นเที่ยวบินตามตารางการบิน 13,682 เที่ยวบิน เที่ยวบินพิเศษและเช่าเหมาลำประมาณ 386 เที่ยวบิน สำหรับสายการบินประจำที่ขอเพิ่มเที่ยวบินพิเศษและเช่าเหมาลำมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ สายการบินไทยเวียตเจ็ท จำนวน 116 เที่ยวบิน สายการบินไชนาอีสเทิร์นแอร์ไลน์ จำนวน 108 เที่ยวบิน และสายการบินเซียะเหมินแอร์ไลน์ จำนวน 52 เที่ยวบิน
น.ท.สุธีรวัฒน์ กล่าวในตอนท้ายว่า เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายและปลอดภัยสูงสุด ทสภ.ได้จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้มีความพร้อมในการรองรับการใช้บริการของผู้โดยสารในช่วงเวลาดังกล่าว อาทิ การจัดเตรียมรถเข็นกระเป๋าให้มีจำนวนที่เพียงพอต่อความต้องการ เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดห้องน้ำ จัดเพิ่มล่ามภาษาจีนอำนวยความสะดวกและแนะนำผู้โดยสารชาวจีนทั้งในส่วนขาเข้าและขาออก และเพื่อให้การบริการผ่านเข้า – ออกของผู้โดยสารเป็นไปด้วยความสะดวกรวดเร็ว ทสภ. ยังมีการประสานการทำงานร่วมกันแบบบูรณาการกับหน่วยงานต่างๆ โดยได้รับความร่วมมือจากกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 สำนักงาน ศุลกากรตรวจของผู้โดยสาร สถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กองกำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 ในการจัดเตรียมกำลังพลให้พร้อมบริการผู้โดยสารในทุก ๆ ด้าน ทั้งนี้ เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าว จะมีผู้โดยสารเดินทางเป็นจำนวนมาก ดังนั้น จึงขอความร่วมมือผู้โดยสารเดินทางเที่ยวบินระหว่างประเทศควรเผื่อเวลาสำหรับการเดินทาง
มายังท่าอากาศยานประมาณ 3 ชั่วโมง และเที่ยวบินภายในประเทศควรเผื่อเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนเที่ยวบินออก
ทั้งนี้ ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ AOT Contact Center หมายเลขโทรศัพท์ 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง
อนึ่ง กรณีที่กำลังมีสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ทสภ. ได้มีการประสานการทำงานอย่างใกล้ชิดกับด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ โดยมีการติดตั้งเครื่อง Thermo Scan ที่บริเวณอาคารเทียบเครื่องบิน E ซึ่งเป็นอาคารที่ ทสภ. ได้มีการจัดหลุมจอดไว้รองรับเที่ยวบินที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อคัดกรองและเฝ้าระวังโรคระบาดดังกล่าว เป็นการเฉพาะอีกด้วย