วันนี้ (17 สิงหาคม 2566) เวลา 9.29 น. นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร เป็นประธานพิธีเปิดอาคารศูนย์ฝึก K-9 ศุลกากร พร้อมด้วย Ms. YOO SUNHEE Director General, Customs Human Resource Development Institute นายพิพิธ พิชัยศรทัต กรรมการผู้จัดการ โรงพยาบาลสัตว์สุวรรณชาด (โครงการพัฒนาส่วนพระองค์) ในพระบรมราชูปถัมภ์ คณะผู้บริหารกรมศุลกากร ผู้ช่วยทูตฝ่ายศุลกากรประเทศต่าง ๆ (Customs Attaché) และผู้แทนจากหน่วยงานภาคีของกรมศุลกากร ณ อาคารศูนย์ฝึก K-9 ศุลกากร ตำบลหนองปรือ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันมีการลักลอบนำเข้า ส่งออก และนำผ่านยาเสพติดผ่านช่องต่าง ๆ ของศุลกากร ทำให้กรมศุลกากรได้ทำการตรวจยึดยาเสพติดประเภทต่าง ๆ เช่น เฮโรอีน เมทแอมเฟตามีน เคตามีน และอื่น ๆ ที่ซุกซ่อนในสินค้าที่ส่งออกไปยังต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น หน่วยงานศุลกากรทั่วโลกให้ความสำคัญกับการนำสุนัขเข้าร่วมปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปรามทางศุลกากร เนื่องจากสุนัขมีสมรรถนะทางด้านการดมกลิ่นที่มีประสิทธิภาพสามารถตรวจสอบความสลับซับซ้อนของสารเสพติดต่าง ๆ ได้ มีการหยิบยกประเด็นดังกล่าวขึ้นเป็น WCO Global Canine Forum เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูลและแบบอย่างการปฏิบัติที่ดี (Best Practice) โดยเฉพาะประเทศที่หน่วยงานศุลกากรมีการจัดตั้งหน่วยฝึกสุนัข ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย ซึ่งมีชื่อเสียงมากในการนำสุนัขมาร่วมปฏิบัติงาน
จากการศึกษาดูงานหน่วยงานฝึกสุนัข (Canine Training Center) ของศุลกากรต่างประเทศ พบว่า หลายประเทศนำสุนัขดมกลิ่นมาร่วมปฏิบัติงานป้องกันและปราบปรามการลักลอบหรือหลีกเลี่ยงสิ่งของ
ผิดกฎหมาย ให้ผลการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพและมีหลายประเทศที่ยินดี ให้ความร่วมมือ รวมถึงให้คำแนะนำการนำสุนัขมาช่วยปฏิบัติภารกิจด้านการสืบสวนและปราบปราม โดยเฉพาะศุลกากรเกาหลีใต้ได้มอบสุนัขตรวจค้นยาเสพติดสายพันธุ์ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ ให้กับศุลกากรไทย จำนวน 2 ตัว โดยทางไทยได้มอบหมายเจ้าหน้าที่ศุลกากรไทยจำนวน 2 ราย เข้ารับการฝึกอบรมการปฏิบัติงานร่วมกับสุนัขตรวจค้นที่ได้รับมอบ ณ KCS Detector Dog Training Center เมืองอินชอน สาธารณรัฐเกาหลี เป็นระยะเวลา 12 สัปดาห์ โดยมีการศึกษาเทคนิคในการฝึกสุนัข การดูแล การสังเกตพฤติกรรม และการปรับตัวเข้าหากัน ซึ่งมีความจำเป็นมากเมื่อสุนัขและผู้ควบคุมเข้าปฏิบัติหน้าที่ ต่อมาเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2566 ศุลกากรเกาหลีได้ส่งครูฝึกเดินทางมายังประเทศไทยพร้อมกับสุนัขตรวจค้นที่จะมอบให้ศุลกากรไทย จำนวน 2 ตัว เพื่อมาฝึกเตรียมความพร้อมและปรับสภาพสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย ให้กับสุนัขตรวจค้นเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ โดยกรมศุลกากร ตั้งชื่อให้สุนัขทั้ง 2 ตัวว่า ขนุน และทุเรียน ซึ่งในวันนี้ กรมศุลกากรได้จัดพิธีรับมอบสุนัขตรวจค้นดังกล่าว โดยมี Ms. YOO SUNHEE Director General, Customs Human Resource Development Institute พร้อมคณะผู้แทนศุลกากรเกาหลีใต้ เป็นผู้ส่งมอบ
อธิบดีฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับอาคารศูนย์ฝึก K-9 ศุลกากร มีพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ 3 งาน แบ่งเป็นอาคารสำนักงานชั้นเดียว 1 อาคาร อาคารที่พักสำหรับสุนัขและสถานที่ฝึกสุนัขในร่ม ชั้นเดียว 1 อาคาร และลานสนามหญ้าสำหรับการฝึกกลางแจ้ง ภายในสถานที่ฝึกสุนัข ทางเราได้เตรียมอุปกรณ์ เพื่อให้สุนัขได้ออกกำลังกายและเตรียมอุปกรณ์จำลองสถานการณ์สำหรับฝึกสุนัข อาทิ รถ กระเป๋า สายพาน เป็นต้น
นอกจากนี้ กรมศุลกากรยังได้ประสานขอความร่วมมือไปยัง โรงพยาบาลสัตว์สุวรรณชาด (โครงการพัฒนาส่วนพระองค์) ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อเข้าให้คำปรึกษาด้านสุขภาพแก่สุนัขตรวจค้น ซึ่งในวันนี้
กรมศุลกากรได้รับเกียรติจากคุณพิพิธ พิชัยศรทัต กรรมการผู้จัดการ บริษัท มงคลชัยพัฒนา จำกัด ผู้บริหารโรงพยาบาลสัตว์สุวรรณชาด (โครงการพัฒนาส่วนพระองค์) ในพระบรมราชูปถัมภ์ ลงนามในบันทึกความร่วมมือในการช่วยเหลือ ดูแลรักษา และตรวจสุขภาพให้แก่สุนัขตรวจค้น ระหว่าง กรมศุลกากร กับ โรงพยาบาลสัตว์สุวรรณชาด (โครงการพัฒนาส่วนพระองค์) ในพระบรมราชูปถัมภ์ ทำให้มั่นใจได้ว่า สุนัขตรวจค้นจะมีสุขภาพที่ดีและแข็งแรง สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
สำหรับการดำเนินงานในอนาคตอันใกล้ กรมศุลกากรกำลังจัดเตรียมหาสุนัขที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเพิ่มเติมประมาณ 5-6 ตัว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน และสามารถพัฒนาให้ศูนย์ฝึก K-9 ศุลกากร เป็นศูนย์ฝึกสุนัขระดับภูมิภาคขององค์การศุลกากรโลก WCO Regional Dog Training Center: RDTC
อีกด้วย
กรมศุลกากรเชื่อว่าเมื่อมีสุนัขเข้าร่วมปฏิบัติงานด้านการสืบสวนปราบปรามเกี่ยวกับการตรวจค้นสิ่งของผิดกฎหมาย โดยเฉพาะยาเสพติดและสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติด จะช่วยส่งเสริมและ
เพิ่มประสิทธิภาพการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติด รวมถึงสินค้าที่เป็นอันตรายต่อสังคมและ
ความมั่นคงของประเทศผ่านด่านศุลกากรได้เป็นอย่างดีต่อไป