“กลัวเจอ” สิ่งที่ไม่อยากเห็นหรือเปล่า?
ปิด“โครงการคลองด่าน” หรือปกปิดอะไร?
คำถามมากมายของสังคม ปมปริศนาการสั่ง ”ยกเลิก” โครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน
อะไรเป็นแรงจูงใจ? ความจริงคืออะไร? อันเป็นสาเหตุรุนแรงถึงขั้นสั่งยกเลิกโครงการ อย่างเร่งด่วน ผิดปกติ!!
จากรายงานของ ป.ป.ช. ระบุว่า การดำเนินโครงการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านฝ่าฝืนต่อระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2539 “เกือบทุกขั้นตอน” ปมปริศนาปมนี้แหละ ทำให้นักวิชาการสงสัยว่า ต้องมีอะไรอีกมากมายที่หมกเม็ด ปิดบังซ่อนเร้นอยู่
ทำไมต้องหยุดระงับการจ่ายเงิน หลังดำเนินการก่อสร้างไปแล้วกว่า 95% มีการจ่ายเงินไป 54 งวด จากทั้งหมด 58 งวด รวมเป็นเงินกว่า 2 หมื่นล้านบาท
วันนั้นนายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในปี 2546 ผู้ประกาศปิดโครงการได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบโครงการ ก่อนจะพบความผิดปกติหลายประการ
แต่รายงานข่าวกล่าวกลับตั้งข้อสังเกตว่า การสั่งให้ยุติการก่อสร้างทันที!! เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2546
ทุกอย่างเป็นไปอย่างเร่งด่วน มีพิรุธ!!!
เลยอดสงสัยไม่ได้ว่า สิ่งก่อสร้างที่จ่ายเงินไปแล้ว เกือบ 2 หมื่นล้านบาทนี้ เป็นของจริง ..หรือเป็นแค่ของเด็กเล่น ใช้งานอะไรไม่ได้จริง ..ขืนปล่อยให้เดินหน้าจนจบโครงการ จะกลายเป็นการประจานงานที่ล้มเหลวมากมาย เพราะการโกงครั้งมโหฬารครั้งนี้
สงสัยแม้กระทั่งหนังสือคำสั่งของกรมควบคุมมลพิษที่สั่งให้ยกเลิกสัญญายุติการก่อสร้าง โรงบำบัดน้ำเสียเมื่อปี 2546 ที่ลงนามโดย นายอภิชัย ชวเจริญพันธ์ เป็นหนังสือที่ถูกต้องตามระเบียบราชการหรือไม่.!? เพราะไม่เคยค้นพบต้นเรื่องที่เสนอมาตามขั้นตอนแต่อย่างใด!!
รายงานข่าวในห้วงเวลานั้นระบุไว้!!!
บางคนถึงกับกล่าวว่า เป็นการฆ่าตัดตอน “ปิดโครงการ” ใช่มั้ย?
แล้วตัวละครที่ไม่เคยพูดถึงก็ปรากฏออกมาเป็นข่าวต่อเนื่องทุกพื้นที่ข่าวเวลานั้นคือ นายวัฒนา อัศวเหม เรื่องการจัดซื้อที่ดินขายให้กับโครงการ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย… ทั้งๆ ที่เป็นแค่เศษเสี้ยวหนึ่งของโครงการนี้เท่านั้น
ต้องไม่ลืมว่ากรมควบคุมมลพิษ (ค.พ.) ได้มีคำสั่งให้กิจการร่วมค้า NVPSKG ยุติการดำเนินโครงการ และระงับการจ่ายเงิน หลังดำเนินก่อสร้างไปแล้วกว่า 95% คิดเป็นมูลค่าถึง 2 หมื่นล้านกว่าบาท
น่าสงสัยว่ากลุ่มบริษัทร่วมกิจการค้า บริษัทชื่อแปลกๆ ว่า NVPSKG .. อันเป็นเอกชนเพียงรายเดียวที่เป็นผู้ดำเนินงานทั้งหมด ตั้งแต่ออกแบบ ก่อสร้าง ทดลองระบบ รวมทั้งการจัดหาอุปกรณ์ เครื่องมือ รวมทั้งที่ดิน ..ได้ถูกเสนอชื่อไปยังกรมบัญชีกลาง เพื่อขึ้น”บัญชีดำ” หรือ”แบล็กลิสต์” หรือไม่?
น่าสงสัยด้วยว่า คดีที่เกิดขึ้นเป็นการเข้าร่วมประมูลงานจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ ได้มีการตรวจสอบความผิดดังกล่าวขัดกับหลักข้อตกลงคุณธรรมและโครงการเพื่อความโปร่งใสในการก่อสร้างภาครัฐ (cost) และเข้าข่ายต้องขึ้นบัญชีดำ (blacklist) หรือไม่?
กรมควบคุมมลพิษที่เป็นคู่สัญญากับผู้รับเหมาได้แจ้งเรื่องการทำงานให้กับภาครัฐแล้วเกิดความเสียหาย มายังกรมบัญชีกลางในฐานะที่เป็นหน่วยงานคณะกรรมการกำหนดรายชื่อผู้ทิ้งงานใน ”บัญชีดำ” หรือรายชื่อ ”แบล็กลิสต์” หรือไม่? และได้ดำเนินการอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้?
ซึ่งกฎระเบียบระบุไว้ว่า บริษัทที่ทำงานแล้วทำให้ภาครัฐเสียหาย ทั้งบริษัทและกรรมการจะถูกแบล็กลิสต์ไม่สามารถเข้าร่วมประมูลงานได้เป็นเวลา 2 ปี หรือจนกว่าจะขอยื่นถอดรายชื่อออกไป จึงเป็นที่น่าสังเกตว่าหากบริษัทใหญ่เหล่านี้ถูกขึ้น ”แบล็กลิสต์” อาจมีผลกระทบทั้งด้านชื่อเสียงและการรับงานกับภาครัฐ ต่อไป
แต่เป็นที่ทราบกันดีว่า บริษัทที่เข้าร่วมกิจการ NVPSKG เกิดจากการรวมตัวกันของบริษัทในเครือข่ายนักการเมือง ที่เป็นรัฐมนตรีในเวลานั้นทุกบริษัท
ได้ชื่อว่าเป็น “สี่เสือกรมทางหลวง” เพราะเติบโตมากับการรับเหมาก่อสร้างทางหลวงทั่วประเทศ
ถ้าถูกขึ้น “บัญชีดำ” หรือถูก “แบล็กลิสต์” คงจะทำธุรกิจกับภาครัฐไม่ได้..ความเสียหายตรงนี้มากมายนัก
ยิ่งถ้าปล่อยให้สร้างจนจบโครงการ ก็จะพิสูจน์ได้ชัดเจนว่าเงินกว่า 2 หมื่นล้าน .. ได้โครงการบำบัดน้ำเสียที่เป็น ”ของจริง” หรือ ของ ”เด็กเล่น”?
ถ้าจะพิสูจน์เรื่องนี้ ลองตรวจ ”บิล” การจ่ายเงินซื้ออุปกรณ์-เครื่องจักร การก่อสร้าง ที่จ่ายไปแล้วกว่า 2 หมื่นล้าน คุ้มค่ามั้ย? .. เราอาจพบเหตุของโครงการ “โคตรโกง” จริงๆ ก็เป็นได้?
ปมปริศนา?.. การปิดโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน จึงมีข้อสงสัยว่า “ปิด” เพื่อ “ปิดการโกงหรือเปล่า?” เป็นแค่กลยุทธ์ “ลับลวงพราง” ของนักการเมืองที่ผันเงินออกจาก ”คลัง”ประเทศ .. เข้ากระเป๋านักการเมืองหรือเปล่า?
ชาวบ้านเขาเริ่มมองอย่างนี้แล้วนะ..จะบอกให้!!!
